วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

แคนตาลูป (Cantaloupe)






แคนตาลูป (Cantaloupe)

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Cucumis melo
ก่อนอื่นเรามาดูลักษณะของแคนตาลูปว่าเป็นอย่างไง  มีที่มาเป็นอย่างไร  ชื่อ  และประวัติการเข้ามาในไทยกันครับ 

แคนตาลูป เป็นพืชตระกูลแตง เป็นผลไม้โบราณชนิดหนึ่ง มีชื่อสามัญว่า Cantaloupe ชื่อนี้มีที่มาจากการนำแตงพันธุ์นี้เข้าไปปลูกในประเทศอิตาลีที่เมืองแคนตา ลูโป (Cantalupu) ใกล้กับกรุงโรม ต่อมาพระเจ้าชาร์ลที่ 8 นำไปปลูกในฝรั่งเศส และเรียกผลไม้ลูกกลม ๆ รีๆ สีเหลืองนี้ว่า "แคนตาลูป" อังกฤษนำไปปลูกบ้าง เลยเรียกชื่อตามภาษาฝรั่งเศส ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis melo var.cantalupensis แตงแคนตาลูปมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย คนอินดียและแอฟริการู้จักกินแคนตาลูปมานานกว่า 4,000 ปีแล้วมีการนำแคนตาลูปเข้ามาปลูกในเมืองไทยตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ, 2478 เมื่อก่อนเรียกว่า "แตงเทศ" หรือแตงฝรั่ง" ด้วยรูปร่างลักษณะคล้ายกับแตงไทย จึงทำให้บางคนเรียกแตงแคนตาลูปว่า "แตงไทยฝรั่ง" แต่ปลูกแล้วเป็นโรคจึงตายเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้มีการพัฒนาการปลุกมาจนกระทั่งสามารถปลูกแตงแคนตาลูปได้ผลผลิตดีใน ปัจจุบันนี้
  แหล่งที่ปลูกแคนตาลูปในไทย  เขาปลูกกัน ที่ไหนกันบ้างครับ ? 

  แหล่งปลูกแคนตาลูปอยู่ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เกษตรกรในอรัญประเทศเรียกแคนตาลูปของเขาว่า "แตงคุณหนู" เพราะจะต้องคอยประคบประหงมดูแลกันตลอด 60 วัน ฤดูที่มีผลผลิตออกตลาดอยูในช่วงเดือนเมษายน แคนตาลูปเป็นพืชล้มลุก อยู่ในตระกูลเดียวกับแตงไทย ต้นมีลักษณะเป็นไม้เถา ตามเถาและก้านใบมีขนนิ่ม ใบเหลี่ยมมน ดอกสีเหลืองเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละดอก ผลกลมรี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 10-16 ซม. เปลือกนอกแข้ง เนื้อชุ่มน้ำ ผลดิบเนื้อกรอบ เมื่อสุกเนื้อนิ่ม หอมหวาน สีของเนื้อแคนตาลูปแตกต่างกันตามสายพันธุ์ สามารถแบ่งออกตามสีเนื้อได้ดังนี้ 

   
เนื้อสีเขียวหรือเขียวขาว ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศมีทั้งผิวเรียบและผิวลายตาข่าย ผลสุกเปลือกสีเขียวครีมเหลือง และเหลืองทอง เนื้อมีทั้งเนื้อกรอบและเนื้อนุ่มรสหวานและมีกลิ่นหอม เช่น พันธุ์เจดคิว ฮันนี่ดิว ฮันนี่เวิลด์ และวีนัสไฮบริด เป็นต้น 

    เนื้อสีส้ม ผลมีทั้งผิวเรียบและผิวลายเป็นตาข่าย ผลสุกเปลือกสีครีมและสีเหลือง เนื้อมีที้งเนื้อกรอบและเนื้อนุ่ม รสหวานและมีกลิ่นหอมค่อนข้างแรง ได้แก่ พันธุ์ซันเลดี้ ท๊อบมาร์ค นิวเอ็มเมลลอน และนิวเซนต์จูรี เป็นต้น


   
ผลแคนตาลูปยิ่งสุกกลิ่นยิ่งหอม รสชาติยิ่งหวานนำมากินเป็นผลไม้สด และทำเป็นน้ำผลไม้ การคัดเลือกแคนตาลูปที่สุกแล้วให้กินอร่อย ให้ชั่งน้ำหนักด้วยมือลูกหนึ่งควรจะมีน้ำหนักประมาณหนึ่งกิโลกรัมเศษ ๆ จึงเรียกกว่ากำลังดี ลองเขย่าดูถ้ามีเสียงน้ำอยู่ข้างใน แสดงว่าส้มและสุกเกินไปกินไม่อร่อย แคนตาลูปที่แก่ได้ที่ต้องผิวสวย ตึง ไม่เหี่ยวเป็นร่องเป็นหยัก สีเหลืองเหมือนสีเปลือกไข่ไก่ถึอว่ากำลังดี
คราวนี้เรามาดูวิธีการทำน้ำแคนตาลูป  เอาไว้ดื่มให้อร่อยๆ  และชื่นใจกันครับ

น้ำแคนตาลูป


แคลตาลูป เป็นพืชล้มลุก มีลักษณะเป็นไม้เถา เถาและก้านใบมีขนนิ่ม เถาเป็นเหลี่ยม ใบเหลี่ยมมน ดอกตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละดอก มีผลกลมรี ผิวผลมีสีเหลือง เนื้อในมีสีเหลืองอมส้ม
ส่วนผสม
เนื้อแคนตาลูป 1 ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
นำแคนตาลูปมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก เติมน้ำเชื่อม ปั่นจนเนื้อแคนตาลูปละเอียด จะได้น้ำแคนตาลูปส้มอ่อนๆ ขุ่นข้น รสชาติหอมหวาน น่าดื่ม

คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณ:
แคนตาลูป ประกอบด้วยน้ำตาล มีวิตามีนซีเล็กน้อย และวิตามินเอสูงมาก มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรงกระดูกและฟัน เนื้อผลสุก เป็นยาขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ขับเหงื่อ ดับพิษร้อน บำรุงธาตุและสอมง ช่วยบรรเทาอาการอักเสนของทางเดินปัสสาวะ แก้กระหาย สมัยก่อนฝรั่งเชื่อกันว่ากินแตงแคนตาลูปแล้วทำให้สายตาดี และมีสติ จะคิดจะทำสิ่งใดก็ได้ตามความมุ่งหมาย น้ำแคนตาลุป ช่วยลดไข้ เพราะเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติเย็น ส่วนน้ำตาลและเอนไซม์ที่มีอยู่ในแคนตาลูปช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการอักเสบของลำไส้ และอาการปั่นป่วนในกระเพาะอาหารเนื่องจากินอาหารผิดสำแดง





ขอขอบคุณแหล่งที่มา  misterfruitthailand.com 

OTOP ไทย 365 วัน  - แคนตาลูป จากยูทูบ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น