ชื่อทางวิทยาศาสตร์:
Cucumis
melo ก่อนอื่นเรามาดูลักษณะของแคนตาลูปว่าเป็นอย่างไง มีที่มาเป็นอย่างไร ชื่อ และประวัติการเข้ามาในไทยกันครับ
แคนตาลูป
เป็นพืชตระกูลแตง เป็นผลไม้โบราณชนิดหนึ่ง มีชื่อสามัญว่า Cantaloupe ชื่อนี้มีที่มาจากการนำแตงพันธุ์นี้เข้าไปปลูกในประเทศอิตาลีที่เมืองแคนตา
ลูโป (Cantalupu) ใกล้กับกรุงโรม ต่อมาพระเจ้าชาร์ลที่ 8
นำไปปลูกในฝรั่งเศส และเรียกผลไม้ลูกกลม ๆ รีๆ สีเหลืองนี้ว่า
"แคนตาลูป" อังกฤษนำไปปลูกบ้าง เลยเรียกชื่อตามภาษาฝรั่งเศส
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis melo var.cantalupensis แตงแคนตาลูปมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
คนอินดียและแอฟริการู้จักกินแคนตาลูปมานานกว่า 4,000 ปีแล้วมีการนำแคนตาลูปเข้ามาปลูกในเมืองไทยตั้งแต่เมื่อปี
พ.ศ, 2478 เมื่อก่อนเรียกว่า "แตงเทศ"
หรือแตงฝรั่ง" ด้วยรูปร่างลักษณะคล้ายกับแตงไทย
จึงทำให้บางคนเรียกแตงแคนตาลูปว่า "แตงไทยฝรั่ง"
แต่ปลูกแล้วเป็นโรคจึงตายเป็นจำนวนมาก
จากนั้นได้มีการพัฒนาการปลุกมาจนกระทั่งสามารถปลูกแตงแคนตาลูปได้ผลผลิตดีใน
ปัจจุบันนี้
แหล่งที่ปลูกแคนตาลูปในไทย เขาปลูกกัน ที่ไหนกันบ้างครับ ?
แหล่งปลูกแคนตาลูปอยู่ที่อำเภอไทรโยค
จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
เกษตรกรในอรัญประเทศเรียกแคนตาลูปของเขาว่า "แตงคุณหนู" เพราะจะต้องคอยประคบประหงมดูแลกันตลอด
60
วัน ฤดูที่มีผลผลิตออกตลาดอยูในช่วงเดือนเมษายน
แคนตาลูปเป็นพืชล้มลุก อยู่ในตระกูลเดียวกับแตงไทย ต้นมีลักษณะเป็นไม้เถา
ตามเถาและก้านใบมีขนนิ่ม ใบเหลี่ยมมน
ดอกสีเหลืองเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละดอก ผลกลมรี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 10-16
ซม. เปลือกนอกแข้ง เนื้อชุ่มน้ำ ผลดิบเนื้อกรอบ
เมื่อสุกเนื้อนิ่ม หอมหวาน สีของเนื้อแคนตาลูปแตกต่างกันตามสายพันธุ์
สามารถแบ่งออกตามสีเนื้อได้ดังนี้
เนื้อสีเขียวหรือเขียวขาว
ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศมีทั้งผิวเรียบและผิวลายตาข่าย ผลสุกเปลือกสีเขียวครีมเหลือง
และเหลืองทอง เนื้อมีทั้งเนื้อกรอบและเนื้อนุ่มรสหวานและมีกลิ่นหอม เช่น
พันธุ์เจดคิว ฮันนี่ดิว ฮันนี่เวิลด์ และวีนัสไฮบริด เป็นต้น
เนื้อสีส้ม
ผลมีทั้งผิวเรียบและผิวลายเป็นตาข่าย ผลสุกเปลือกสีครีมและสีเหลือง
เนื้อมีที้งเนื้อกรอบและเนื้อนุ่ม รสหวานและมีกลิ่นหอมค่อนข้างแรง ได้แก่
พันธุ์ซันเลดี้ ท๊อบมาร์ค นิวเอ็มเมลลอน และนิวเซนต์จูรี เป็นต้น
ผลแคนตาลูปยิ่งสุกกลิ่นยิ่งหอม
รสชาติยิ่งหวานนำมากินเป็นผลไม้สด และทำเป็นน้ำผลไม้
การคัดเลือกแคนตาลูปที่สุกแล้วให้กินอร่อย ให้ชั่งน้ำหนักด้วยมือลูกหนึ่งควรจะมีน้ำหนักประมาณหนึ่งกิโลกรัมเศษ
ๆ จึงเรียกกว่ากำลังดี ลองเขย่าดูถ้ามีเสียงน้ำอยู่ข้างใน
แสดงว่าส้มและสุกเกินไปกินไม่อร่อย แคนตาลูปที่แก่ได้ที่ต้องผิวสวย ตึง
ไม่เหี่ยวเป็นร่องเป็นหยัก สีเหลืองเหมือนสีเปลือกไข่ไก่ถึอว่ากำลังดี
คราวนี้เรามาดูวิธีการทำน้ำแคนตาลูป เอาไว้ดื่มให้อร่อยๆ และชื่นใจกันครับ
น้ำแคนตาลูป
แคลตาลูป
เป็นพืชล้มลุก มีลักษณะเป็นไม้เถา เถาและก้านใบมีขนนิ่ม เถาเป็นเหลี่ยม
ใบเหลี่ยมมน ดอกตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละดอก มีผลกลมรี ผิวผลมีสีเหลือง
เนื้อในมีสีเหลืองอมส้ม
ส่วนผสม
เนื้อแคนตาลูป
1 ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก
2 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม
1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
นำแคนตาลูปมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
นำมาใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุก เติมน้ำเชื่อม ปั่นจนเนื้อแคนตาลูปละเอียด
จะได้น้ำแคนตาลูปส้มอ่อนๆ ขุ่นข้น รสชาติหอมหวาน น่าดื่ม
คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณ:
แคนตาลูป ประกอบด้วยน้ำตาล มีวิตามีนซีเล็กน้อย และวิตามินเอสูงมาก
มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรงกระดูกและฟัน เนื้อผลสุก เป็นยาขับปัสสาวะ ขับน้ำนม
ขับเหงื่อ ดับพิษร้อน บำรุงธาตุและสอมง ช่วยบรรเทาอาการอักเสนของทางเดินปัสสาวะ
แก้กระหาย สมัยก่อนฝรั่งเชื่อกันว่ากินแตงแคนตาลูปแล้วทำให้สายตาดี และมีสติ
จะคิดจะทำสิ่งใดก็ได้ตามความมุ่งหมาย น้ำแคนตาลุป ช่วยลดไข้
เพราะเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติเย็น ส่วนน้ำตาลและเอนไซม์ที่มีอยู่ในแคนตาลูปช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร
บรรเทาอาการอักเสบของลำไส้
และอาการปั่นป่วนในกระเพาะอาหารเนื่องจากินอาหารผิดสำแดง
ขอขอบคุณแหล่งที่มา misterfruitthailand.com
OTOP ไทย 365 วัน - แคนตาลูป จากยูทูบ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น