วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

กระบก (Kaua)




กระบก (Kaua)

http://misterfruitthailand.com/images/px.gif

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Irvingia malayana
การเรียกชื่อ  กระบก  จะแตกต่างกันออกไปนะครับ
ภาคเหนือเรียกมะมื่น
ภาคอีสานเรียกหมากบก
ภาษาชองเรียกชะอัง
สุโขทัยและโคราชเรียกมะลื่น
กระบกเป็น เป็นไม้ยืนต้น ในวงศ์ Irvingiaceae ไม้ยืนต้นขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ สูง10 – 30 เมตร ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เมื่อมีอายุมากโคนมักเป็นพูพอน เรือน ยอดเป็นพุ่มแน่น ทึบ กลม หรือกลมรี กิ่งอ่อนจะมีรอยแผลใบขวั้นรอบตรงข้อ เปลือกสีเทาอ่อนปนน้ำตาล ค่อนข้างเรียบบางทีแตกเป็นสะเก็ด
มาดูแต่ละส่วนของลำต้นของกระบกกันดีกว่าครับ ว่าตั้งแต่ใบ  ดอก  ผล มีลักษณะกันอย่างไรกัน

ใบ เป็นใบเดี่ยว ติดเรียงสลับ ทรงใบรีแกมรูปขอบขนานจนถึงใบรูปหอก กว้าง 2 – 9 ซม. ยาว 8 – 20 ซม. เนื้อใบหนาเกลี้ยงทั้งสองด้านโคนใบมนแล้ว สอบเรียว ไปทางปลาย ปลายใบแหลมทู่ขอบใบเรียบ เส้นแขนง ใบมี 8 – 14 คู่และมักมีเส้นแขนง ใบปลอมแซมระหว่าง กลาง เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได จะเห็นชัดทางด้านท้องใบ ใบแห้งจะเห็นเส้นร่างแหชัดทั้งสองด้านหูใบจะม้วนหุ้ม ยอด เรียวโค้งเป็นรูปฝักดาบ ยาว 3 ซม.

ดอก เป็นดอกช่อแบบ panicle มีขนาดเล็ก สีขาวปนเขียวอ่อน มีขนนุ่ม ๆ ประปราย ออกรวมกันเป็นช่อโตๆ ตามปลายกิ่งกลีบฐานดอกและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ กลีบดอกจะยาวประมาณ 3 เท่าของกลีบฐานดอกและปลายกลีบจะหักกลับมาสู่ก้านดอก เกสรผู้มี 10 อัน
ผล มีขนาดใหญ่และแข็งเหมือนไม้ ภายในเมล็ดมีเนื้อสีขาว รสมัน รูปทรงกลม หรือรูปไข่ แบนเล็กน้อย คล้ายมะม่วงขนาดเล็กผลอ่อนสีเหลือง มีเนื้อหุ้มเมล็ดแข็ง ออกดอกเดือน กุมภาพันธุ์- เมษายน
คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณ:
เนื้อกระบกมี คาร์โบไฮเดรท, โปรตีน , ธาตุเหล็ก และแคลเซียม เนื้อใช้บำรุงไต ไขข้อ เส้นเอ็นและเบื่อพยาธิในท้อง ส่วนเนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็ง ใช้ก่อสร้าง ทำปืน น้ำมันที่ได้จากเนื้อในเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่และเทียนไข
เห็นไหมครับว่า กระบก นี้นอกจากจะมีสารอาหารแล้ว ยังทำเป็นปืนไม้ ได้อีกด้วย  เผื่อเอาไว้เป็นอาวุธในการล่าสัตว์ในการดำรงชีพ  ได้อั๊ยยะ!
กระบกที่ว่านี้  ยัง ฃเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดร้อยเอ็ดนะครับ
ขอขอบคุณ  misterfruitthai.com
และ วิกิพีเดีย  สารานุกรมเสรี ครับ
postjung.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น