ชื่อทางวิทยาศาสตร์:
Irvingia
malayana
การเรียกชื่อ กระบก จะแตกต่างกันออกไปนะครับ
ภาคเหนือเรียกมะมื่น
ภาคอีสานเรียกหมากบก
กระบกเป็น เป็นไม้ยืนต้น
ในวงศ์ Irvingiaceae
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ สูง10 – 30 เมตร
ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เมื่อมีอายุมากโคนมักเป็นพูพอน เรือน ยอดเป็นพุ่มแน่น ทึบ
กลม หรือกลมรี กิ่งอ่อนจะมีรอยแผลใบขวั้นรอบตรงข้อ เปลือกสีเทาอ่อนปนน้ำตาล
ค่อนข้างเรียบบางทีแตกเป็นสะเก็ด
มาดูแต่ละส่วนของลำต้นของกระบกกันดีกว่าครับ ว่าตั้งแต่ใบ ดอก
ผล มีลักษณะกันอย่างไรกัน
ใบ
เป็นใบเดี่ยว ติดเรียงสลับ ทรงใบรีแกมรูปขอบขนานจนถึงใบรูปหอก กว้าง 2 – 9 ซม. ยาว 8 – 20 ซม. เนื้อใบหนาเกลี้ยงทั้งสองด้านโคนใบมนแล้ว
สอบเรียว ไปทางปลาย ปลายใบแหลมทู่ขอบใบเรียบ เส้นแขนง ใบมี 8 – 14 คู่และมักมีเส้นแขนง ใบปลอมแซมระหว่าง กลาง เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได
จะเห็นชัดทางด้านท้องใบ ใบแห้งจะเห็นเส้นร่างแหชัดทั้งสองด้านหูใบจะม้วนหุ้ม
ยอด เรียวโค้งเป็นรูปฝักดาบ ยาว 3 ซม.
ดอก
เป็นดอกช่อแบบ panicle
มีขนาดเล็ก สีขาวปนเขียวอ่อน มีขนนุ่ม ๆ ประปราย
ออกรวมกันเป็นช่อโตๆ ตามปลายกิ่งกลีบฐานดอกและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ กลีบดอกจะยาวประมาณ 3 เท่าของกลีบฐานดอกและปลายกลีบจะหักกลับมาสู่ก้านดอก
เกสรผู้มี 10 อัน
ผล
มีขนาดใหญ่และแข็งเหมือนไม้
ภายในเมล็ดมีเนื้อสีขาว รสมัน รูปทรงกลม หรือรูปไข่ แบนเล็กน้อย
คล้ายมะม่วงขนาดเล็กผลอ่อนสีเหลือง มีเนื้อหุ้มเมล็ดแข็ง ออกดอกเดือน
กุมภาพันธุ์- เมษายน
คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณ:
เนื้อกระบกมี คาร์โบไฮเดรท, โปรตีน ,
ธาตุเหล็ก และแคลเซียม เนื้อใช้บำรุงไต ไขข้อ
เส้นเอ็นและเบื่อพยาธิในท้อง ส่วนเนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็ง ใช้ก่อสร้าง ทำปืน
น้ำมันที่ได้จากเนื้อในเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่และเทียนไข
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น